WELCOME !

สวัสดีครับ

หลายคนที่เข้ามา Blog ผม อาจจะสงสัยว่า

ทำไม Blog นี้ มีแต่เรื่อง กล้อง

ก้คือ ผมชอบมันนะครับ : )

มด macro

มด macro

ตั๊กแตน macro

ตั๊กแตน macro

22 มกราคม 2551

แฉ!!! ระบบกันฝุ่นกล้อง DSLR ใครอยู่-ใครไป 2007-03-28

ฝุ่นกับเซ็นเซอร์รับภาพเป็นของที่ไม่ถูกกันมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะกล้องแบบ DSLR ที่มีการเปลี่ยนเลนส์อยู่บ่อยๆ ดังนั้นโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปถึงเซ็นเซอร์รับภาพได้นั้นมีมาก ในอดีตกล้องดิจิตอล DSLR จะต้องมีส่งเข้าศูนย์ เข้าร้านซ่อม เพื่อทำการล้างฝุ่นออกจากเซ็นเซอร์อยู่เป็นประจำ

จนกระทั่ง Olympus ได้คิดค้นระบบกำจัดฝุ่นด้วยตัวเองขึ้นมาในชื่อ Supersonic Wave Filter แล้วนำมาใส่ในกล้องดิจิตอล DSLR ของ Olympus ทุกรุ่น ซึ่งระบบนี้ก็สามารถทำงานได้ดี จนมีชื่อเสียงชนิดที่ว่าคนที่ใช้กล้องดิจิตอล DSLR ยี่ห้ออื่นๆ ต่างเรียกร้องอยากได้ระบบกำจัดฝุ่นบ้าง เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาล้างเซ็นเซอร์รับภาพอีกต่อไป



ระบบกำจัดฝุ่นของ Olympus มีหัวใจอยู่ที่ แผ่นวัสดุบางๆที่ปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพเอาไว้ โดยที่แผ่นนี้สามารถสั่นได้ ในระดับอัลตราโซนิค (สั่นมากกว่า 20,000 ครั้งต่อนาที) ซึ่งเป็นช่วงระดับความสั่นที่นิยมใช้ในการทำความสะอาด โดยที่อัตราการสั่นในระดับนี้ จะทำให้ฝุ่นที่ติดอยู่บนแผ่นวัสดุหลุดออกได้โดยง่าย

รายถัดมาที่ทำระบบกำจัดฝุ่นก็คือ Sony Alpha ซึ่งนับเป็นเจ้าแรกที่ทำระบบนี้ขึ้นมาหลังจากปล่อยให้มีเพียง Olympus มีระบบกำจัดฝุ่นอยู่เพียงเจ้าเดียวมานานหลายปี ทาง Sony Alpha ได้ออกระบบระบบกำจัดฝุ่นมาในเดือน มิถุนายน 2550 ซึ่งมาพร้อมกับ Sony Alpha A-100

ระบบกำจัดฝุ่นของ Sony Alpha A-100 พัฒนามาจากระบบกันภาพสั่นไหวที่ CCD ซึ่งระบบกันภาพสั่นไหว จะทำการเคลื่อน CCD (เซ็นเซอร์สำหรับรับภาพ) เพื่อชดเชยการสั่นของกล้อง ทำให้ได้ภาพที่คมชัด แม้ตัวกล้องมีการสั่นเล็กน้อย

ด้วยระบบกันสั่นนี้ทาง Sony Alpha ก็ได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นระบบกำจัดฝุ่น โดยการสั่งให้ CCD เคลื่อนเป็นจังหวะ ด้วยความไวสูง (สั่นประมาณ 100 รอบต่อนาที) เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะอยู่บน CCD หลุดออกมาได้ นอกเหนือจากการสั่น CCD แล้ว Sony Alpha ยังได้เคลือบผิวของ CCD ด้วย indium-tin oxide เพื่อช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบน CCD อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่นั้นหลุดออกไปยาก




Canon ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกระบบกำจัดฝุ่น ตาม Sony Alpha มาติดๆ โดยได้นำมาใช้กับกล้องรุ่น EOS-400D โดยใช้หลักการคล้ายกับของทาง Olympus โดยได้เพิ่มระบบสั่นไปยังฟิลเตอร์ด้านนอกสุดที่ปิด CMOS (เซ็นเซอร์รับภาพอีกชนิดหนึ่ง) เอาไว้ เพื่อทำการสั่นให้ฝุ่นที่เกาะอยู่หลุดออกมาได้

นอกเหนือไปจากระบบกำจัดฝุ่นทาง Canon ยังได้มีระบบซอฟแวร์ที่จะทำการเก็บข้อมูลฝุ่นที่เกาะอยู่บน CMOS แล้วบันทึกข้อมูลลงไฟล์รูปภาพ เพื่อนำไปใช้ในการลบฝุ่นออกจากภาพด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพได้ โดยระบบกำจัดฝุ่นและระบบเก็บข้อมูลฝุ่นที่เกาะอยู่บน CMOS นี้ เรียกรวมกันว่า Canon EOS Integrated Cleaning System

ค่ายสุดท้ายที่มีระบบกำจัดฝุ่น ก็คือPentax โดยได้นำไปใส่ไว้ในรุ่น K10D สำหรับระบบกำจัดฝุ่นของ Pentax ก็ใช้ระบบเหมือนๆ กับ Sony Alpha ทุกประการ คือใช้วิธีการสั่นที่เซ็นเซอร์รับภาพ สำหรับค่ายผู้ผลิตกล้องยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่ 4 ยี่ห้อที่กล่าวถึงนี้ยังไม่มีระบบกำจัดฝุ่นออกมาในตอนนี้

ทดลองของจริง ระบบกำจัดฝุ่นทุกยี่ห้อ
ก่อนจะเข้าสู่การทดลองและผลการทดลอง ก็ต้องขอบอกกว่าว่าการทดลองนี้เป็นการทดลอง ที่ทำโดยเว็บไซต์ต่างประเทศ pixinfo.com ดังนั้น ทางทีมงาน TechXcite จะไม่ขอลงรายละเอียด ที่ลึกมากนักแต่จะแปลแบบจับใจความมาให้พอเข้าใจ สำหรับคนที่อยากทราบข้อมูล ที่มากกว่าที่แปลมาก็สามารถคลิกที่ลิงค์ด้านล่างสุดเพื่อไปอ่านผลทดสอบ ที่เป็นภาษาอังกฤษได้ครับ

สำหรับการทดลองที่เค้าทำ เค้าได้ทำความสะอาดเซ็นเซอร์รับภาพของกล้องที่มาทดสอบให้สะอาดที่สุด แล้วนำมาทดลองโดยมีการเก็บข้อมูลดังนี้

1. ถ่ายภาพก่อนการทดลองเก็บไว้(reference)
2. เอาฝุ่นพ่นเข้าไปตรงเซ็นเซอร์รับภาพแล้วถ่ายภาพเก็บไว้(dusting)
3. ทำการสั่งให้กล้องกำจัดฝุ่น 2 ครั้ง แล้วถ่ายภาพเก็บไว้(2nd cleaning)
4. สั่งใก้กล้องล้างฝุ่นต่อไปอีกจนครบ 25 ครั้ง แล้วถ่ายภาพเก็บไว้ (25th cleaning)
5. เป่าฝุ่นด้วยลูกยาง 2 ครั้ง แล้วถ่ายภาพเก็บไว้ (2nd blowing)
6. ล้างเซ็นเซอร์ด้วยน้ำยาล้าง แล้วถ่ายภาพเก็บไว้ (Final)

***ภาพผลการทดลองดูได้ที่ pixinfo.com

ที่มา : http://www.techxcite.com/articledetail.php/article/27/

ไม่มีความคิดเห็น: